6 โรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์
|
“เรียนสิงคโปร์ดอทคอม” สำรวจ 6 โรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ซึ่งแต่ละโรงเรียนมีอายุตั้งแต่ 100-200 ปี โดยปัจจุบันทั้ง 6 โรงเรียนยังคงเปิดการเรียนการสอนอยู่ ไม่เท่านั้นยังได้กลายเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงระดับ Top ของประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิชาการและศิษย์เก่าซึ่งถือว่าเป็นโรงเรียนในฝันที่นักเรียนสิงคโปร์อยากเข้าไปเรียนกัน
|
 |
จุดเริ่มต้นของสิงคโปร์สมัยใหม่
ก่อนจะทำความรู้จัก 6 โรงเรียนเก่าแก่อายุ 100-200 ปีของสิงคโปร์ จะต้องย้อนไปทำความรู้จักจุดเริ่มต้นของสิงคโปร์เสียก่อน กล่าวคือ สิงคโปร์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน มีจุดเริ่มต้นในปี 1819 (พ.ศ.2362) เมื่อ Sir Thomas Stamford Raffles ชาวอังกฤษ ตัวแทนของบริษัท British East India Company ประเทศอังกฤษในขณะนั้น ได้มาตั้งสถานีการค้าที่สิงคโปร์ซึ่งในเวลาต่อมา สิงคโปร์ ก็ได้กลายเป็นอาณานิคมของอังกฤษในที่สุดในปี 1867 (พ.ศ.2410)
การก่อตั้งโรงเรียนในระบบในสิงคโปร์
ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ตั้งแต่สิงคโปร์เป็นสถานีการค้าจนถึงช่วงที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษนั้น สิงคโปร์ได้เริ่มก่อตั้งโรงเรียนในระบบแล้วซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ 6 โรงเรียนเก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ในปัจจุบันซึ่งมีโรงเรียนใดบ้าง “เรียนสิงคโปร์ดอทคอม” ได้รวบรวมข้อมูลไว้ดังนี้
|
.jpg) |
|
1. Raffles Institution
|
ก่อตั้งเมื่อปี 1823 หรือ พ.ศ. 2366 โดย Sir Thomas Stamford Raffles ชาวอังกฤษ บิดาผู้ก่อตั้งสิงคโปร์สมัยใหม่ ทำให้ Raffles Institution เป็นโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์ อายุกว่า 200 ปี ปัจจุบัน Raffles Institution เป็นโรงเรียนในกำกับของรัฐที่ไม่ใช่เพียงแค่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นโรงเรียนอันดับ 1 ของสิงคโปร์ซึ่งมีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงจบจากที่นี่มากมาย เช่น Yusof Ishak, Benjamin Sheares, Wee Kim Wee 3 อดีตประธานาธิบดีของสิงคโปร์ รวมถึง Lee Guan Yew, Goh Chok Tong 2 อดีตนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ไม่เพียงเท่านั้น Raffles Institution ยังแตกตัวให้กำเนิดโรงเรียนในเครืออีกแห่งที่ชื่อว่า Raffles Girls’ School ซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงล้วนเมื่อปี 1879 หรือ พ.ศ. 2422 หรือเมื่อ 140 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบัน Raffles Girls’ School ก็ได้ก้าวเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงอันต้นๆของประเทศเคียงข้าง Raffles Institution ด้วย
|
 |
|
2. St. Margaret’s School
|
เป็นโรงเรียนหญิงล้วนแห่งแรกในสิงคโปร์ ก่อตั้งเมื่อปี 1842 หรือ พ.ศ. 2385 ทำให้โรงเรียน St. Margaret เป็นโรงเรียนหญิงล้วนที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ อายุกว่า 180 ปี ก่อตั้งโดย Mrs. Maria Dyer มิชชันนารี จากประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเนื่องจากในช่วงเวลานั้น มีเด็กหญิงที่ยากจน ไร้บ้าน ขาดโอกาส จำนวนหนึ่งถูกนำไปประมูลขายเป็นทาสให้ครอบครัวที่มีฐานะเพื่อทำงานเป็นคนรับใช้ ทำให้มิชชันนารีท่านนี้ต้องการช่วยเหลือเด็กหญิงกลุ่มนี้ โดยให้การศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น จึงเป็นจุดกำเนิดของการก่อตั้งโรงเรียนหญิงล้วนแห่งนี้ ปัจจุบันโรงเรียน St. Margaret แม้ว่าชื่อเสียงอาจจะดังไม่เท่าโรงเรียนหญิงล้วนชั้นนำของสิงคโปร์อย่าง Raffles’ Girls School, Nanyang Girls’ School, Methodist Girls’ School แต่ก็สามารถกล่าวได้ว่า เป็นโรงเรียนหญิงล้วนที่มีชื่อเสียงตามหลังโรงเรียนเหล่านี้ไม่ห่างมากนัก
|
 |
|
3. St. Joseph’s Institution
|
เป็นโรงเรียนที่เก่าแก่เป็นอันดับ 3 ของสิงคโปร์ ก่อตั้งเมื่อปี 1852 หรือ พ.ศ. 2395 หรือเมื่อกว่า 170 ปีที่แล้ว ก่อตั้งโดยคณะภราดาลาซาล (La Salle Brothers) ทำให้เป็นโรงเรียนคาทอลิคแห่งแรกในสิงคโปร์ด้วย ปัจจุบัน St. Joseph’s Institution เป็น 1 ในกลุ่มโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศทางวิชาการระดับชั้นนำของประเทศสิงคโปร์เช่นกัน
|
 |
|
4. Anglo-Chinese School (Independent)
|
เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงระดับ Top 10 อีกแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ ก่อตั้งเมื่อปี 1886 หรือ พ.ศ. 2429 หรือเมื่อเกือบ 140 ปีที่แล้ว โดยบาทหลวงจากคริสตจักรเมโธดิสต์ ตามประวัติในช่วงแรกที่โรงเรียนเริ่มเปิดสอน โรงเรียนจัดการเรียนการสอนโดยสอนวิชาต่างๆให้กับนักเรียนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนกลาง มีรูปแบบเป็นโรงเรียน 2 ภาษา จึงกลายเป็นที่มาของชื่อโรงเรียนคือ “Anglo-Chinese” (อังกฤษ-จีน)
|
 |
|
5. Methodist Girl’s School
|
ก่อตั้งเมื่อปี 1887 หรือ พ.ศ. 2430 หรือเกือบ 140 กว่าปีที่แล้ว ก่อตั้งโดยมิชชันนารีชาวออสเตรเลียชื่อ Sophia Blackmore โดยช่วงแรกของการเปิดโรงเรียนนั้น เปิดสอนให้เฉพาะนักเรียนหญิงเชื้อสายทมิฬซึ่งเวลานั้นโรงเรียนใช้ชื่อว่า “Tamil Girl’s School” ก่อนที่จะเป็น Methodist Girl’s School ในเวลาต่อมา ทุกวันนี้ Methodist Girl’s School ยังคงเป็นโรงเรียนหญิงล้วนเหมือนเมื่อ 140 กว่าปีที่แล้ว แต่ที่เปลี่ยนไปคือ โรงเรียนนี้มีนักเรียนหญิงชาวสิงคโปร์จากหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะนักเรียนเชื้อสายทมิฬ และได้เติบโตจนกลายเป็นโรงเรียนหญิงล้วนที่มีชื่อเสียงและอยู่ในกลุ่มโรงเรียนระดับ Top ของประเทศสิงคโปร์ไปแล้ว
|
 |
|
6. Hwa Chong Institution
|
โรงเรียนก่อตั้งโดยนักธุรกิจชาวจีนที่ชื่อว่า Tan Kah Kee ในปี 1919 หรือ พ.ศ. 2462 โดยมีจุดประสงค์เพื่อก่อตั้งโรงเรียนชายล้วนสำหรับนักเรียนเชื้อสายจีนในชุมชนชาวจีนในสิงคโปร์ โดยเวลานั้นใช้ชื่อโรงเรียนว่า Chinese High School จนกระทั่งในปี 2005 หรือ พ.ศ. 2548 โรงเรียนได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร และได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนมาเป็น Hwa Chong Institution ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นโรงเรียนเก่าแก่ของสิงคโปร์ อายุมากกว่า 100 ปี และยังเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศทางวิชาการระดับ Top ของประเทศอีกด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่า โรงเรียนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงหลายแห่งในสิงคโปร์ มักก่อตั้งโดยบาทหลวงและมิชชันนารีของศาสนาคริสต์ มีบรรยากาศของความเป็นโรงเรียนคริสเตียน แต่สำหรับ Hwa Chong Institution แล้ว มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีจุดกำเนิดโดยชาวจีนเพื่อให้การศึกษานักเรียนจีนในสิงคโปร์ จึงเป็นโรงเรียนที่มีรากเหง้า กลิ่นอายและบรรยากาศของวัฒนธรรมจีนค่อนข้างเด่นชัด |
|
การเข้าเรียนโรงเรียนเก่าแก่ของสิงคโปร์สำหรับนักเรียนไทย
ในทางปฏิบัติ นักเรียนไทยที่เรียนอยู่โรงเรียนไทย หากสนใจไปเรียนโรงเรียนเก่าแก่ของสิงคโปร์ข้างต้นซึ่งทั้งหมดเป็นโรงเรียนรัฐบาลที่อยู่ในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ นักเรียนไม่สามารถไปติดต่อและสมัครเรียนกับโรงเรียนเหล่านี้ได้โดยตรง เพราะตามระเบียบของกระทรวงศึกษาฯสิงคโปร์ มีข้อกำหนดว่า นักเรียนต่างชาติที่จะเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาลสิงคโปร์ จะต้องสมัครสอบ AEIS ซึ่งเป็นการสอบส่วนกลางที่กระทรวงศึกษาฯสิงคโปร์เป็นคนจัดสอบให้กับนักเรียนต่างชาติเท่านั้น
นักเรียนไทยไม่สามารถเลือกโรงเรียนรัฐบาลสิงคโปร์ได้เอง
หากนักเรียนไทยคนใดคนหนึ่ง ทำผลงานสอบ AEIS ได้ดี-ดีมาก จนสอบผ่านได้ที่นั่งโรงเรียนรัฐบาล ทางกระทรวงศึกษาฯสิงคโปร์ จะจัดหาโรงเรียนรัฐบาลแห่งใดแห่งหนึ่งให้นักเรียนได้เรียน นักเรียนต่างชาติไม่สามารถเลือกโรงเรียนรัฐบาลที่ตนเองสนใจได้ จากระเบียบข้อนี้ แปลว่าถึงแม้ว่านักเรียนไทยคนใดคนหนึ่งสอบ AEIS ผ่าน ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกเรียนกับโรงเรียนเก่าแก่ของสิงคโปร์ข้างต้นได้
ช่องทางที่เป็นไปได้ในการเข้าโรงเรียนเก่าแก่ของสิงคโปร์
ถึงแม้ว่าการสอบ AEIS ผ่าน ไม่ได้เป็นการการันตีว่า นักเรียนไทยจะได้เข้าไปเรียนต่อโรงเรียนรัฐบาลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ แต่เมื่อสอบติดแล้ว ก็ขอให้เข้าไปเรียนโรงเรียนรัฐบาลแห่งใดแห่งหนึ่งไปก่อน และรอจังหวะการสอบจบระดับ ป.6 ซึ่งมีการสอบส่วนกลางเพื่อจบประถมฯ เรียกว่าการสอบ PSLE หรือใครเรียนระดับมัธยมฯ ก็ให้รอการสอบจบ ม.4 ซึ่งมีการสอบส่วนกลางเพื่อจบระดับมัธยมศึกษาของสิงคโปร์ เรียกการสอบว่า GCE O Level หากทำผลสอบดังกล่าวในระดับที่ดีมากและยอดเยี่ยม โอกาสที่จะย้ายเข้าโรงเรียนเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงข้างต้น ยังคงมีโอกาสอยู่
|
|
รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลโดย
เรียนสิงคโปร์ดอทคอม ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อสิงคโปร์
|