หลังจากเรียนในแต่ละวันแล้ว หยงต้องใช้เวลานอกห้องเรียนในการเรียนหรือทบทวนเยอะไหม
ถ้าตอนเรียน ELPP ก็กลับมาทบทวนบ้างค่ะ แต่ไม่มาก แต่พอตอนขึ้นมาเรียน ป.ตรี นี่สิคะ คือ ต้องมาศึกษานอกห้องเรียน ค้นคว้าเองเยอะมากค่ะ
แล้วตอนขึ้นไปเรียนปริญญาตรีแล้ว ช่วงแรกภาษาอังกฤษยังมีปัญหาอีกไหม
ไม่ค่อยแล้วค่ะ เพราะได้ปรับเรื่องการเขียนกับการอ่านมาค่อนข้างเยอะ จากหลักสูตร ELPP สำหรับหยง หลักสูตรนี้ค่อนข้างช่วยหยงได้มากค่ะ แต่กลับต้องปัญหาอื่นที่เจอ เช่น การไม่คุ้นเคยกับข้อสอบ คือว่า ทุกวิชาตอนสอบปลายภาค เขาจะให้สมุดเปล่าๆมาหนึ่งเล่มกับกระดาษคำถามอีก 2 แผ่น 5555 โหดดีค่ะ 5555
ปัญหาของหยงคือการสะกดคำ บางคำสะกดผิดบ้างอะไรบ้าง แต่พอมาเจอข้อสอบแบบเขียนแบบนี้ เลยทำให้เราต้องฝึกฝนศัพท์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนนี้ให้มากขึ้น หยงคิดว่าระบบการสอบแบบนี้ค่อนข้างดีเลยค่ะ เขาจะกำหนดให้นักศึกษาเขียนคำตอบแบบข้อละไม่ต่ำกว่า1หน้า ประมาณนี้ค่ะ คือ ถ้าไม่เข้าใจในเนื้อหาที่เรียนหรือไม่ได้เตรียมตัวมาก็จะเขียนไม่ได้เลยค่ะ
แล้วอย่างนี้ ตอนเรียนปริญญาตรีนี้หยงใช้เวลาอ่านหนังสือนอกห้องเรียนประมาณวันละกี่ชั่วโมง
จริงๆ จะมาอ่านจริงจังช่วงสองอาทิตย์ก่อนสอบค่ะ และจะอ่านแบบจริงจังมากๆช่วงก่อนสอบ1อาทิตย์ค่ะ ไม่ออกไปไหนเลยค่ะ 555อ่านทั้งวัน เนื่องจากเป็นข้อสอบเขียน มันก็เลยบังคับให้เราต้องอ่านและเข้าใจมัน ไม่งั้นไม่รู้จะเอาอะไรไปเขียนตอบค่ะ
แล้วหยงมีวิธีการอ่านหนังสือเตรียมตัวก่อนสอบอย่างไรบ้าง
สำหรับหยงนะ อ่านอย่างเดียวมันไม่เข้าหัวค่ะ 5555 วิธีที่ดีที่สุด คือ เขียนค่ะ เขียน ซ้ำๆไปเรื่อยๆ จะได้อ่านไปด้วยฝึกจำไปด้วยค่ะ เขียนทั้งหมด ทั้งคำศัพท์และสรุปบทเรียนเลยค่ะ ในแต่ละวิชา หยงเขียนไม่ต่ำกว่า 5 รอบค่ะ การเขียนสรุปแบบนี้คือวิธีที่ช่วยให้เข้าใจสำหรับหยงและฝึกการเขียนไปด้วยค่ะ
แล้วฟังกับพูดไม่ค่อยมีปัญหาใช่ไหม
สาขาที่หยงเรียนคือ international business ดังนั้นวิชาที่เรียนจึงมีการพรีเซนหน้าห้องเกือบทุกตัวเลยค่ะ มากไปกว่านั้นยังต้องเข้ากลุ่มกับเพื่อนซึ่งมาจากหลากหลายประเทศ เพื่อความคละกันในการทำงาน ดังนั้น การพูดกับฟังเลยไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะเราได้ใช้ตลอดเลยค่ะ
แล้วตอนเรียนปริญญาตรีเป็นเพื่อนชาติไหนเยอะที่สุด
คละกันมากเลยค่ะ เวียดนาม พม่า อินโด มาเล จีน เป็นส่วนใหญ่ แล้วก็มีฝั่งยุโรปมาแลกเปลี่ยน2 เทอมค่ะ มีฝรั่งเศส นอร์เวย์ เยอรมัน ค่ะ
อยู่ที่สิงคโปร์มาหลายปีแล้ว หยงคิดว่าการได้มีโอกาสมาเรียนต่อปริญญาตรีสิงคโปร์นี้ มีข้อดีอะไรบ้าง
ในความเห็นของหยง การได้มาเรียนต่างประเทศทำให้ได้เจออะไรใหม่ๆเยอะดีค่ะ ได้เจออะไรที่ท้าท้าย ทั้งด้านการใช้ชีวิต การเข้าสังคม และการเรียนค่ะ
การใช้ชีวิต คือ อย่างมาอยู่ที่สิงคโปร์ เราต้องพูดภาษาอังกฤษไม่ก็จีนในชัวิตประจำวันค่ะ (หยงพูดจีนได้) มันเลยทำให้เราได้พัฒนาภาษาด้วยการเข้าสังคมซึ่งทำให้ภาษาของหยงพัฒนาไปเร็วขึ้น เราได้เจอคนเยอะมาก เจอหลายประเทศ หลายรูปแบบ มันแปลกใหม่และท้าท้ายดีค่ะ
ส่วนเรื่องการเรียน สิ่งที่หยงเห็น คือ การเรียนที่นี่ค่อนข้างแตกต่างกับตอนเรียนที่ไทยค่ะ ที่นี่สอนให้เราคิด และการนำมาไปใช้ค่ะ ค่อนข้างต่างกับที่ไทย ที่สอนให้จำแล้วเอาไปสอบ 55555 ข้อสอบที่นี่ ถ้าเราไม่เข้าใจหรือไม่อ่านจริงๆ ก็จะทำข้อสอบไม่ได้ค่ะ เพราะมั่วไม่ได้เหมือนที่ไทย หยงเปรียบเทียบด้านการเรียนได้เพราะหยงเคยเรียนมหาลัยที่ไทยมาแล้ว1ปี หยงเลยเห็นข้อแตกต่างค่อนข้างชัดเจนค่ะ
จากประสบการณ์ของหยง หากจะแนะนำรุ่นน้องที่จะเข้ามาเรียนคิดว่าให้เขาเตรียมตัวเรื่องอะไรเป็นหลัก
เรื่องภาษาอังกฤษเลยค่ะ ทั้งการอ่าน การเขียน พูดกับฟังก็ควรเตรียมด้วยนะคะ เพราะเคยมีเพื่อนบางคนที่เข้ากลุ่มแล้วพูดกับฟังไม่ค่อยได้ ก็เลยค่อนข้างลำบากในการทำงานกลุ่มค่ะ พูดง่ายๆ ภาษาอังกฤษน่าจะต้องได้ทุก skills แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ การได้มาเรียนหลักสูตร ELPP ก็ช่วยได้จริงๆค่ะ ^^
|