|
เรียนปริญญาโทกับมหาวิทยาลัยรัฐของสิงคโปร์
|
| |
 |
|
"เรียนสิงคโปร์" ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อสิงคโปร์โดยเฉพาะ ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ "การเรียนต่อปริญญาโทกับกลุ่มมหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์" เพื่อให้นักศึกษาไทยรวมถึงผู้ปกครองได้นำข้อมูลเหล่านี้ใช้เป็นแนวทางในการสมัครเรียน
|
|
1. มหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์มีกี่แห่งและมีอะไรบ้าง
|
|
กลุ่มมหาวิทยาลัยรัฐของสิงคโปร์หรือที่สิงคโปร์เรียกอย่างเป็นทางการว่า Autonomous Universities มีทั้งหมด 6 แห่งประกอบด้วย
• National University of Singapore หรือ NUS
• Nanyang Technological University หรือ NTU
• Singapore Management University หรือ SMU
• Singapore Institute of Technology หรือ SIT
• Singapore University of Social Science หรือ SUSS
• Singapore University of Technology and Design หรือ SUTD
|
 |
|
2. ปริญญาโทในกลุ่มมหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์มีสาขาใดที่น่าเรียนบ้าง
|
|
ปกติหลักสูตรปริญญาโทของกลุ่มมหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์ เปิดสอนในหลากหลายสาขาและครอบคลุมทุกสาขาเหมือนกับมหาวิทยาลัยทั่วโลก แต่หากถามว่า หลักสูตร ป.โท สาขาใดที่เป็นจุดแข็ง เป็นที่นิยม และเป็นที่น่าสนใจของนักศึกษาทั้งสิงคโปร์และต่างชาติซึ่ง ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อสิงคโปร์ "เรียนสิงคโปร์" จะขอยกตัวอย่าง 5 สาขาดังนี้
- สาขา Business Administration (MBA)
- สาขา Computer Science / Data Science / Artificial Intelligence (AI) / Information Technology (IT)
- สาขา Finance / Financial Engineering / FinTech
- สาขา Public Policy / International Relations
|
|
3. ความแตกต่างระหว่างหลักสูตรปริญญาโทแบบ coursework กับแบบ research
|
|
เมื่อนักศึกษาไทยเข้าไปค้นข้อมูลหลักสูตรปริญญาโทในเว็บไซด์ของมหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์แต่ละแห่ง จะพบว่าจะมีหลักสูตร ป.โท 2 แบบคือ coursework กับ research ความต่างระหว่าง 2 แบบคือ
- coursework เป็นการเรียนรายวิชาต่างๆในชั้นเรียนเหมือนกับการเรียน ป.ตรี แต่รายวิชาที่เรียนลึกกว่าและระดับความรู้สูงกว่า การประเมินผลมีให้ทำรายงาน สอบข้อเขียน การทำ project และบางสาขาอาจให้ทำวิทยานิพนธ์ขนาดเล็กด้วย
- research เป็นหลักสูตรสำหรับคนที่เป็นนักวิจัยและมีแผนที่จะเรียนต่อจนจบปริญญาเอก การเรียนแบบนี้ จะเน้นทำวิจัยเป็นหลัก (เรียนรายวิชาอาจมี 1-2 รายวิชาเท่านั้น) มีอาจารย์ที่ปรึกษาวิจัย มีการทำวิทยานิพนธ์เต็มรูปแบบ และผลงานวิจัยมักถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ
นักศึกษาจะเลือกแบบใดให้พิจารณาจากจุดประสงค์ของตนเอง เช่น ใครจะเรียนต่อยอดความรู้เพื่อเอาไปใช้ในการทำงาน ก็ให้เลือกแบบ coursework ซึ่งนักศึกษาส่วนใหญ่จะเลือกแบบนี้ ใครจะเป็นนักวิจัย จะทำวิจัยเพื่อขึ้นไปเรียนต่อ ป.เอก ก็ให้เลือกแบบ research ซึ่งคนที่เลือกแบบนี้มักจะทำงานด้านวิชาการ เช่น นักวิจัย อาจารย์มหาวิทยาลัย
|
 |
|
4. ระยะเวลาเรียนจนจบปริญญาโท
|
|
สำหรับหลักสูตรปริญญาโทแบบเต็มเวลาหรือ Full Time แต่ละสาขาใช้เวลาเรียนตั้งแต่ต้นจนจบหลักสูตร อยู่ระหว่าง 1-2 ปีขึ้นอยู่กับสาขาและมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาเลือกเรียน (ข้อมูลนี้ อ้างอิงถึงหลักสูตร ป.โท แบบ coursework เท่านั้น เพราะนักศึกษาทั่วไปโดยส่วนใหญ่เลือกเรียนแบบนี้)
|
|
5. เปิดเทอมเรียนเมื่อไร
|
|
ปกติมหาวิทยาลัยรัฐของสิงคโปร์ จะเปิดเทอม 1 ช่วงสิงหาคมของแต่ละปี ดังนั้นหลักสูตรแต่ละสาขาส่วนใหญ่ จะเริ่มการเรียนการสอนช่วงเดือนนี้กัน (แต่ก็มีบางมหาวิทยาลัยและบางสาขา นอกจากจะเปิดเรียนรอบหลักเดือนสิงหาคมแล้ว ยังเปิดเรียนอีกรอบในเทอม 2 ซึ่งคือมกราคมของปีถัดไปด้วย)
|
|
6. เปิดรับสมัครช่วงไหน
|
|
เปิดรับสมัครตั้งแต่ตุลาคมจนถึงมีนาคมของปีที่จะเริ่มเรียน (บางมหาวิทยาลัยปิดรับสมัครเร็วกว่านั้นคือปิดรับสมัครเดือนมกราคม) เช่น หากจะเริ่มเรียนสิงหาคม 2026 ก็ต้องสมัครเรียนตั้งแต่ตุลาคม 2025 - มีนาคม 2026
|
 |
|
7. คุณสมบัติผู้สมัครเรียนเบื้องต้น นอกจากจบ ป.ตรี แล้ว ทางกลุ่ม ม.รัฐสิงคโปร์ได้กำหนดเกรดเฉลี่ยตอนจบ ป.ตรี ขั้นต่ำของผู้สมัครหรือไม่
|
|
บางมหาวิทยาลัย บางหลักสูตร ไม่ได้กำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำสำหรับการสมัครเรียนไว้อย่างชัดเจน เพียงแต่กำหนดกว้างๆเท่านั้น เช่น ผู้สมัครต้องจบ ป.ตรีด้วยด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดี หรือ A Good Bachelor Degree เท่านั้น
บางมหาวิทยาลัย บางหลักสูตร กำหนดไว้ว่า ผู้สมัครจะต้องจบ ป.ตรี เทียบเท่าหลักสูตร Bachelor Degree with Honour ของระบบสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการเรียน ป.ตรี แบบปกติ 3 ปี + แบบ Honour 1 ปี รวมเป็น 4 ปี
สรุปก็คือ หากหลักสูตรที่สนใจกำหนดว่า A Good Bachelor Degree กรณีนี้ "เรียนสิงคโปร์" แนะนำให้ผู้สมัครนักศึกษาไทย ควรยื่นเกรดเฉลี่ยจบ ป.ตรี สูงๆเข้าไว้ก่อน อย่างน้อยก็ควรได้เกรดเฉลี่ยเทียบเท่าคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 2 เพื่อเพิ่มโอกาสในการพิจารณารับเข้าเรียน
หากหลักสูตรที่สนใจกำหนดว่าจบเทียบเท่า Bachelor Degree with Honour ของสิงคโปร์ซึ่งไม่มีระบบนี้ในไทย ทำให้เทียบกันตรงๆลำบาก กรณีนี้ให้ยื่นหลักสูตร ป.ตรี ของไทยซึ่งเรียนระบบ 4 ปีไปให้พิจารณาแทน แต่ก็ควรเป็น ป.ตรี คะแนนเกียรตินิยม อันดับ 2 ขึ้นไปเพื่อเพิ่มโอกาสในการพิจารณาเข้าเรียน
|
|
8. สนใจเรียนต่อ ป.โท สาขาหนึ่ง แต่ผู้สมัครจบ ป.ตรี สาขาไม่ตรงและไม่เกี่ยวข้อง กรณีนี้สามารถยื่นสมัครเรียน ป.โทได้หรือไม่
|
|
กรณีนี้ขึ้นอยู่กับสาขาที่นักศึกษาสมัคร เพราะบางสาขากำหนดให้ผู้สมัครต้องจบ ป.ตรี สาขาตรงหรือสาขาที่เกี่ยวข้อง แต่บางสาขาเปิดรับผู้สมัครที่จบ ป.ตรี ทุกสาขา ซึ่งแนวทางพิจารณามีดังนี้
- กรณีแรก ในการเรียนต่อโทบางสาขาที่ต้องมีความรู้เฉพาะทาง ผู้สมัครควรจบ ป.ตรี ในสาขาตรงหรือที่เกี่ยวข้อง เพราะการเรียน ป.โท ในสาขาใดสาขาหนึ่งนั้น มันคือการเรียนตัวต่อเนื่องและลึกขึ้นจากระดับ ป.ตรี จำเป็นที่ผู้สมัครต้องมีความรู้สาขานั้นๆใน ป.ตรี จึงจะเรียนต่อระดับ ป.โท รู้เรื่อง โดยเฉพาะสาขากฎหมายและในกลุ่มวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี
- กรณีที่สองในบางสาขา โดยเฉพาะกลุ่มสาขาธุรกิจ เช่น บริหารธุรกิจ การจัดการ การตลาด การเงิน หรือที่เกี่ยวข้อง หลายมหาวิทยาลัยเปิดรับผู้สมัคร ป.ตรี ทุกสาขา แต่ก็ต้องมีกิจกรรมบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่สมัครด้วย เช่น ผู้สมัครบางรายจบ ป.ตรี สาขาครุศาสตร์มา แต่ก็สมัคร MBA ได้ เพราะมีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายขายอุปกรณ์การเรียนมาก่อน เป็นต้น
|
|
9. ผู้สมัครจำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงานก่อนการสมัครเรียนหรือไม่
|
|
เท่าที่ "เรียนสิงคโปร์" ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อสิงคโปร์ สำรวจดูพบว่า หลักสูตร ป.โทแต่ละหลักสูตร มีการกำหนดเงื่อนไขประเด็นนี้ใน 4 รูปแบบด้วยกันคือ
- ผู้สมัครจำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงานหลังจบ ป.ตรี เช่น หลักสูตร ป.โท บริหารธุรกิจ หรือ MBA ของ 2 มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังของสิงคโปร์อย่าง NUS และ NTU กำหนดไว้ว่า ผู้สมัครจะต้องมีประสบการณ์ทำงานอย่าง 2 ปีจนถึง 10 ปี (หลักสูตร MBA มีหลายประเภท แต่ละประเภทกำหนดจำนวนปีของประสบการณ์ทำงานไม่เท่ากัน
- ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงาน แต่หากมี ทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาเป็นพิเศษ
- ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงานเลย
- ผู้สมัครที่จบ ป.ตรี ในสาขาตรงหรือเกี่ยวข้อง ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงาน กลับกันผู้สมัครที่จบ ป.ตรี ในสาขาไม่ตรง ไม่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง
สรุปคือ ผู้สมัครสนใจสมัครเรียนหลักสูตรใด ให้ดูเงื่อนไขเรื่องนี้ให้ดี เพราะแต่ละหลักสูตรกำหนดเงื่อนไขนี้ไม่เหมือนกัน
|
 |
|
10. ผลสอบภาษาอังกฤษมาตรฐาน เช่น IELTS หรือ TOEFL ต้องได้อย่างน้อยเท่าไร จึงจะยื่นสมัครเรียน ป.โท ในกลุ่ม ม.รัฐสิงคโปร์ได้
|
|
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักที่ใช้ในการเรียนการสอนในสถานศึกษาทุกระดับชั้นในประเทศสิงคโปร์ ดังนั้นผู้สมัครที่มาจากประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในสถานศึกษา เช่น นักศึกษาไทย จะต้องยื่นผลสอบภาษาอังกฤษมาตรฐานอย่าง IELTS หรือ TOEFL อย่างใดอย่างหนึ่งในการสมัครเรียนด้วยซึ่งกรณีนี้กลุ่ม ม.รัฐสิงคโปร์ได้กำหนดคะแนนขั้นต่ำของ IELTS และ TOEFL ไว้ดังนี้
- IELTS : อยู่ระหว่าง 6.5-7.0
- TOEFL IBT : อยู่ระหว่าง 85-100
แต่ละมหาวิทยาลัยและแต่ละสาขากำหนดคะแนนขั้นต่ำไม่เท่ากัน เช่น สาขากฎหมาย กำหนดผลสอบภาษาอังกฤษไว้สูงกว่าสาขาคอมพิวเตอร์ เพราะสาขากฎหมายต้องอ่าน/เขียนภาษาอังกฤษเยอะ อีกทั้งระดับภาษาอังกฤษที่ใช้ในภาษากฎหมายค่อนข้างสูงและลึก
|
|
11. หากเรียนจบปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ (ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน) ของมหาวิทยาลัยในไทย ยังจำเป็นต้องยื่นผลสอบ IELTS หรือ TOEFL หรือไม่
|
|
เท่าที่สำรวจในกลุ่มมหาวิทยาลัยรัฐหลักของสิงคโปร์ เช่น NUS NTU และ SMU ในหลายสาขามีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า หากผู้สมัครจบหลักสูตร ป.ตรี ซึ่งการเรียนการสอนใช้ภาษาอังกฤษตลอดหลักสูตร กรณีนี้ไม่ต้องยื่นผลสอบ IELTS หรือ TOEFL
แต่ในบางสาขา ก็ไม่มีการระบุเรื่องนี้ไว้ชัดเจน ดังนั้นหากผู้สมัครพบกรณีนี้ แนะนำให้ติดต่อสอบถามทางอีเมล์กับคณะที่ดูแลหลักสูตรดังกล่าวโดยตรง
|
 |
|
12. ต้องยื่นผลสอบ GRE / GMAT ไหม
|
|
บางสาขา เช่น สาขาวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี ระบุไว้ว่า ผู้สมัครต้องยื่นผลสอบ GRE ด้วย
ส่วนสาขา Business เช่น MBA หรือที่เกี่ยวข้อง ระบุให้ยื่นคะแนน GMAT ด้วย (บางหลักสูตรให้ยื่นได้ทั้ง GMAT หรือ GRE อย่างใดอย่างหนึ่ง)
ส่วนสาขาในกลุ่มสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ โดยส่วนใหญ่ไม่ต้องยื่น GRE/GMAT
|
|
13. ค่าเรียน ป.โทตลอดหลักสูตรจนจบเท่าไร
|
- ถ้าเป็นสาขาบริหารธุรกิจหรือ MBA อยู่ระหว่าง 2,100,000-2,500,000 บาทโดยประมาณ
- ถ้าเป็นกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี อยู่ระหว่าง 1,200,000-1,600,000 บาท
- ถ้าเป็นกลุ่มสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ อยู่ระหว่าง 1,200,000-1,600,000 บาทโดยประมาณ
|
|
14. ค่าครองชีพระหว่างอยู่สิงคโปร์ระยะเวลา 1-2 ปีช่วงเรียน ป.โทใช้เงินประมาณเท่าไร
|
|
ถ้าเป็น 1 ปี ประมาณ 650,000-850,000 ถ้าเป็น 2 ปีประมาณ 1,300,000-1,700,000 บาทซึ่งใช้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคน
|
|
15. สมัครเรียนที่ไหนและอย่างไร
|
|
ผู้สนใจสามารถสมัครเรียนทางออนไลน์ในเว็บไซด์ของมหาวิทยาลัยรัฐที่สนใจโดยตรง ทาง "เรียนสิงคโปร์" ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อสิงคโปร์ ไม่รับบริการทำเรื่องสมัครเรียนให้ แต่เหตุที่จัดทำบทความนี้เพื่อต้องการให้นักเรียนรวมถึงผู้ปกครองได้เข้าใจข้อมูลพื้นฐานและภาพรวมของการศึกษาต่อระดับ ป.โทในกลุ่ม ม.รัฐสิงคโปร์ ก่อนที่จะเข้าไปติดต่อกับกลุ่ม ม.รัฐสิงคโปร์โดยตรง
|
 |
.jpg) |
| |
