ระบบประถมศึกษาของสิงคโปร์ |วิธีบริหารจัดการการศึกษาขั้นพื้นฐานสไตล์สิงคโปร์ |
|
| อัปเดตล่าสุด: 4 ธันวาคม 2025 |
|
| |
|
|
"เรียนสิงคโปร์" Rian Singapore ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อสิงคโปร์ ได้สรุปแนวทางการบริหารจัดการระบบการศึกษาระดับประถมศึกษาของสิงคโปร์ (Primary Education in Singapore) ซึ่งเป็นระบบการศึกษาที่ประสบความสำเร็จ มีคุณภาพมาตรฐานอยู่ระดับต้นๆของโลก
|
|
|
นร.ประถมฯสิงคโปร์ทำคะแนนอันดับ 1 ของโลก
|
|
 |
|
|
ระบบประถมศึกษาสิงคโปร์ประสบความสำเร็จในระดับแนวหน้าของโลก สะท้อนจากการประเมินผลวิชาการในระดับนานาชาติ
การประเมินผลด้านการศึกษาระดับนานาชาติของ TIMSS (Trends in International Mathematics and Science Studies) ซึ่งมีการประเมินทุก 4 ปี
โดยปีล่าสุด 2023 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของสิงคโปร์ทำคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จากนักเรียนทั้งหมด 59 ประเทศทั่วโลกที่เข้าร่วมโครงการประเมินครั้งนี้
จึงเกิดคำถามว่า กระทรวงศึกษาฯสิงคโปร์มีแนวทางการบริหารจัดการการศึกษาระดับประถมฯอย่างไร "เรียนสิงคโปร์" จึงทำสรุปไว้ดังนี้
|
|
|
ระยะเวลาในระบบประถมศึกษาสิงคโปร์
|
|
- ใช้เวลาเรียน 6 ปีในระบบประถมศึกษา
|
|
- เรียนตั้งแต่ ป.1 - ป.6 เหมือนระบบไทย
|
|
|
รายวิชาที่เรียนในระบบประถมศึกษาสิงคโปร์
|
|
|
ภาษาอังกฤษ |
|
ภาษาแม่ (Mother Tongue) |
|
คณิตศาสตร์ |
|
วิทยาศาสตร์ |
|
ศิลปะ |
|
ดนตรี |
|
พลศึกษา |
|
สังคมศึกษา |
|
หน้าที่พลเมือง |
|
|
|
|
|
| นโยบาย 2 ภาษา (Bilingual Policy) |
|
| |
|
.jpg) |
|
|
กระทรวงศึกษาฯสิงคโปร์นำนโยบาย 2 ภาษาหรือ Bilingual Policy มาใช้ในระบบประถมฯสิงคโปร์
กำหนดให้ "ภาษาอังกฤษ" เป็นภาษาหลักในการเรียนการสอนทุกวิชาเพื่อให้นักเรียนสิงคโปร์สามารถสื่อสารและทำงานในระดับสากลได้
กำหนดให้นักเรียนสิงคโปร์ทุกคนเรียนภาษาแม่ (Mother Tongue) โดยให้เลือกเรียนภาษาใดภาษาหนึ่งดังนี้ จีนกลาง มาเลย์ และทมิฬ เพื่อรักษาวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ทางชาติพันธุ์
|
|
| ระบบประถมศึกษาสิงคโปร์มุ่งเน้นเรื่องอะไร |
|
| |
|
- การเรียนรู้ผ่านรายวิชา (Subject-Based Learning)
|
|
.jpg) |
|
| |
|
- การพัฒนาทักษะความรู้ (Knowledge Skills)
|
|
.jpg) |
|
| |
|
- การพัฒนาบุคลิกภาพและคุณลักษณะ (Character Development)
|
|
 |
|
| |
|
| การจัดการเรียนการสอนแต่ละชั้นปี |
|
|
● ในช่วง ป.1 - ป.6 นอกจากนักเรียนจะได้เรียนรายวิชาต่างๆในห้องเรียนตามปกติแล้ว ระบบประถมศึกษาสิงคโปร์ ยังออกแบบระบบเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือนักเรียนที่มีความหลากหลายและแตกต่างกันในภูมิหลังการเรียน
● มีระบบที่สนับสนุนนักเรียนที่เรียนเก่ง
● มีระบบที่คอยช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนไม่ทัน
● ระบบที่ส่งเสริมนักเรียนที่มีความสนใจและจุดแข็งเฉพาะทาง เช่น กีฬา
|
|
| ระดับ ป.1 |
|
| ● มีระบบคอยติดตามการเรียนของนักเรียน หากพบว่ามีนักเรียนที่เรียนวิชาหลัก เช่น ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ไม่ทันเพื่อน ก็จะนำนักเรียนกลุ่มนี้เข้าโปรแกรมการสอนเสริม เช่น
● Learning Support Programme (LSP) เป็นโปรแกรมสอนเสริมวิชาภาษาอังกฤษ
● Learning Support for Mathematics (LSM) เป็นโปรแกรมสอนเสริมวิชาคณิตศาสตร์
|
|
| ระดับ ป.2 |
|
| ● ในชั้น ป.2 จะเริ่มติดตามว่า นักเรียนคนไหนเรียนวิชาภาษาแม่ไม่ทันเพื่อน จากนั้นจะคัดเลือกนักเรียนกลุ่มนี้เพื่อเตรียมเข้าโปรแกรมช่วยเหลือที่เรียกว่า
● Mother Tongue Support Programme (MTSP) ซึ่งเป็นโปรแกรมช่วยสอนเสริมภาษาแม่โดยนักเรียนที่ถูกคัดเลือก จะเริ่มเรียนโปรแกรมนี้ในชั้น ป.3 และ ป.4 ตามลำดับ
|
|
| ระดับ ป.3 |
|
| ● เริ่มเรียนโปรแกรมสอนเสริมภาษาแม่หรือ MTSP สำหรับกลุ่มนักเรียนที่ถูกคัดเลือกในชั้น ป.2
● มีการคัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษเพื่อนำนักเรียนกลุ่มนี้ไปเข้าเรียนโปรแกรม/โครงการส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ หรือ the Gifted Education Programme (GEP) ในชั้น ป.4
|
|
| ระดับ ป.4 |
|
| ● จะเริ่มเรียนโปรแกรมส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ (GEP) สำหรับกลุ่มนักเรียนที่ถูกคัดเลือกในชั้น ป.3
● กลุ่มนักเรียนที่ยังต้องเรียนเสริมวิชาภาษาแม่อยู่ ก็ต้องเข้าโปรแกรมสอนเสริมวิชาภาษาแม่หรือ MISP ต่อไปซึ่งเป็นปีสุดท้ายแล้วสำหรับโปรแกรมนี้
● กลุ่มนักเรียนที่ถนัดและมีความสามารถด้านกีฬาสามารถสมัครเข้าโปรแกรม Junior Sports Academy (JSA) ซึ่งเป็นโปรแกรมเรียนวิชาการตามปกติ แต่กิจกรรมนอกห้องเรียนจะมุ่งเน้นพัฒนาทักษะการกีฬาโดยเฉพาะ นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจะเรียนโปรแกรม JSA ในช่วงชั้น ป.4-6
|
|
| ระดับ ป.5 |
|
| ● มีการนำระบบ Subject-Based Banding หรือ SBB มาใช้
● โดยการกำหนดให้ 4 รายวิชาหลักคือ ภาษาอังกฤษ ภาษาแม่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แบ่งเป็น 2 ระดับคือระดับ Foundation (ระดับพื้นฐาน) กับระดับ Standard (ระดับมาตรฐาน)
● นักเรียนที่ขึ้นมาเรียน ป.5 บางคนได้เรียน 4 วิชาหลักเป็นแบบ Standard หมด บางคนได้เรียนแบบ Foundation หมด บางคนได้เรียนบางวิชาแบบ Standard และบางวิชาแบบ Foundation คละกัน
● นักเรียนคนใดจะได้เรียน 4 วิชาหลักแบบ Standard หรือ Foundation ขึ้นอยู่กับผลการเรียนและผลสอบหลังจบ ป.4
● การนำระบบนี้มาใช้เพื่อสนับสนุนนักเรียนแต่ละคนได้เรียนใน 4 รายวิชาหลักอย่างเหมาะสมตามพื้นฐานความรู้ของนักเรียนแต่ละคน
|
|
| ระดับ ป.6 |
|
| ● ระบบ Subject-Based Banding ยังคงใช้อยู่ในระดับ ป.6
● หลังเรียนจบ ป.6 แล้ว กระทรวงศึกษาฯสิงคโปร์ มีระบบประเมินผลการเรียนนักเรียนทั่วประเทศ โดยนักเรียนทุกคน จะต้องเข้าสอบจบที่เรียกว่า PSLE (Primary School Leaving Examination)
● PSLE เป็นการสอบส่วนกลาง (National Examination) ที่จัดสอบโดย SEAB (Singapore Examinations and Asessment Board) ซึ่งเป็นคณะกรรมการจัดสอบส่วนกลางในกำกับของกระทรวงศึกษาฯสิงคโปร์
● สอบ 4 รายวิชาหลักคือ อังกฤษ ภาษาแม่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
● จุดประสงค์ของการสอบคือ เพื่อประเมินผลความรู้ 4 รายวิชาหลัก โดยใช้ข้อสอบกลางและสอบพร้อมกันทั่วประเทศ
● เป็นการสอบเพื่อจบระดับประถมฯของสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ และผลสอบมีผลต่อการได้ขึ้นชั้นไปเรียน ม.1 หรือเรียนซ้ำใน ป.6
● ผลสอบยังมีผลต่อการได้ ร.ร.มัธยมฯที่ต้องการเข้าด้วย เช่น คะแนนยิ่งสูง ก็มีโอกาสได้ ร.ร.มัธยมฯระดับชั้นนำของสิงคโปร์
|
|