สวัสดีครับ

     มี 2 ทางเลือกครับ

     1.  สมัครเข้าเรียนต่อ ม.รัฐสิงคโปร์ : สำหรับ ม.ที่เปิดสอนสาขาวิศวกรรมศาสตร์คือ National University of Singapore และ Nanyang Technological University ครับ ทางเลือกนี้เหมาะกับนักเรียนที่มีประวัติการเรียนในระดับดีเลิศ และมีความสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการฟัง พูด อ่าน เขียน ระดับดีมากครับ เพราะหากคุณสมบัติไม่เป็นดังนี้ โอกาสเข้าเรียน 2 มหาวิทยาลัยดังกล่าวถือว่าเป็นไปได้ยากครับ เพราะนักเรียนจะต้องผ่านการสอบสนามมาตรฐาน เช่น SAT หรือการสอบของมหาวิทยาลัยก่อนซึ่งคะแนนสอบต้องได้คะแนนสูงๆเท่านั้นครับ จึงจะมีโอกาสสอดแทรกเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่งนี้ได้ครับ

     2.  สมัครเข้าเรียนต่อสถาบันการศึกษาเอกชนของสิงคโปร์  :  กรณีแนะนำเรียนต่อที่สถาบัน PSB Academy ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาระดับ Top 3 ของสิงคโปร์ ที่นี่มีเปิดสอนปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมเครื่องกล และวิศวกรรมไฟฟ้าครับ แต่ที่เป็นจุดเด่นคือ หลักสูตรที่เรียนเป็นของ University of Newcastle ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยรัฐจากออสเตรเลียที่มีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมศาสตร์ครับ หากเรียนจบและสอบผ่านทุกรายวิชา นักศึกษาจะได้รับปริญญาบัตรโดยตรงจาก ม.นี้ครับ

     ทางเลือกนี้เหมาะกับนักศึกษาที่มีคุณสมบัติยังไม่เพียงพอที่จะไปต่อสู้กับทางเลือกแรกได้ เพราะทางเลือกนี้นี้ นักศึกษาจะเข้าเรียนได้ง่ายกว่า เพราะกำหนดคุณสมบัติไม่สูงมากนัก เช่น นักเรียนไทยที่จบ ม.ปลายต้องมีเกรดเฉลี่ย 2.6 ขึ้นไป และมีระดับภาษาอังกฤษเทียบเท่ากับ IELTS 6.0 ก็สามารถเรียนได้แล้วครับ

     นอกจากนี้ระบบรับนักศึกษาต่างชาติยังยืดหยุ่นอีกด้วย เช่น หากเกรดเฉลี่ยไม่ถึงเกณฑ์ มหาวิทยาลัยอาจพิจารณาให้เรียน Foundation เพื่อปรับพื้นฐานวิชาการก่อนเรียนปริญญาตรีได้ หรือหากระดับภาษาอังกฤษไม่ถึงเกณฑ์ มหาวิทยาลัยก็มีการสอนภาษาอังกฤษเพื่อปรับพื้นฐานภาษาให้พร้อมก่อนเรียนปริญญาตรีด้วยเช่นกันครับ 

     หากต้องการข้อมูลสอบถามได้ครับ ขอบคุณครับ

               ลองให้หลานไปสอบชิงทุนของรัฐบาลยุโรปอยางเยอรมัน เนเธอร์แลนด์ และประเทศอื่นแถบยุโรป มีประกาศให้ทุนเยอะมากด้านวิศวะโดยเฉพาะเริ่มแต่เรียนปริญญาตรีหรือจะลงเรียนตรีใหม่(ถ้าอายุไม่เกิน)  เรื่องภาษาก็ฝึกไปก่อน อย่าไปกังวลมาก เรียนในไทย พอไปเรียนภาษาที่โน่นหรือเรียนใหม่  เมื่อได้ภาษาหรือจะเรียนควบไปเพื่อให้ได้ฐานภาษาแน่นและใช้การได้ดีระดับนักศึกษาอักษร เพราะสามารถเรียนควบคู่ไปได้  (ถ้าขยัน) ไม่ต้องเครียดมาก 

                 ถ้าได้ทุน จะเบาภาระทางบ้าน เมื่อเรียนสงขึ้น ก็หางานช่วยสอนหรือช่วยวิจัยทำต่อได้  ระหว่างที่เรียนสามารถทำงานไปด้วยได้ตามกำหนดไม่เกินย่ี่สิบชั่วโมง จะเป็นการฝึกจัดสรรเวลาและหาเงินดูแลตัวเองด้วย 

                 คนที่ขยัน รู้จักใช้เวลาและคบเพื่อนเป็นจะได้ประโยชน์และประสบความสำเร็จ เรื่องเพศตรงข้ามระหว่างเรียนคนที่เรียนจริงจัง เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้ ไม่เหมือนคนไทยที่ไม่มีความรับผิดชอบและไม่รู้หน้าที่ ดังนั้น โอกาสที่คนระดับสูงหน่อยจะมีครอบครัวก็ต่อเมื่อทำงานแล้ว ไม่เหมือนคนระดับล่างเท่าไร (ไม่ใช่ท้งหมด แต่ดูโดยรวม)