เรียนมัธยมที่สิงค์โปร์
ReadyPlanet.com


เรียนมัธยมที่สิงค์โปร์


1. ลูกกำลังจะขึ้นป.6 เรียนepที่เมืองไทย.  ช่วงปิดเทอมมาเรียนภาษาอังกฤษและจีนที่สิงค์โปร์ 2ปีแล้วค่ะ. มาครั้งละ40วัน  เรียนแบบครึ่งวัน. แบบไม่เร่ง. มาอยู่กลับครอบครัวญาติเป็นคนสิงค์โปร์ทำให้คุ้นเคยเรื่องการใช้ชีวิตที่นี่.   พื้นฐานภาษาอังกฤษค่อนดี. แต่ไม่ดีมากค่ะ.  ควรวางแผนมาเรียนอย่างไร.  คือมาเรียนประถม หรือมาเริ่ม มัธยมดีกว่า.  คุณแม่ติดว่ากลัวลูกยังเล็กมาเร็วห่างไกลพ่อแม่สงสารลูก. แต่ถ้าลูกโต ลูกจะไม่ติดพ่อแม่ เราก็ไม่ต้องกังวลใจ.      คุณพ่ออยากให้มาเรียนประถมซ้ำชั้นดีกว่า. รบกวนขอคำแนะนำค่ะขอบคุณ

2.สอบเข้าประถม มัธยมแบบไหนยากกว่าค่ะ

3.มีวิธีไหนค่ะที่ทำให้ลูกได้สัญชาติสิงค์โปร์.  เป็นลูกบุญธรรมได้ไหมค่ะ. ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ Eve :: วันที่ลงประกาศ 2012-04-19 07:23:02


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1484929)

สวัสดีครับ

     การส่งลูกไปเรียนต่อระดับประถมฯ ที่สิงคโปร์ มีข้อดีคือ นักเรียนจะปรับตัวในการเรียนน้อยกว่านักเรียนที่มาต่อมัธยมฯ เพราะเนื้อหาการเรียนในระดับประถมฯมีความง่ายกว่า การสอบเข้าก็ง่ายกว่า โอกาสพัฒนาภาษาอังกฤษและวิชาการก็มีมากกว่า เพราะอยู่นานกว่า 

     แต่ข้อเสียก็มีคือ นักเรียนกลุ่มนี้อายุยังน้อย ผู้ปกครองมักห่วงมากเป็นพิเศษ ทำให้ผู้ปกครองไทยไม่ค่อยส่งลูกไปเรียนช่วงนี้ หากจะมีก็เป็นส่วนน้อย 

     การส่งลูกไปเรียนต่อระดับมัธยมฯที่สิงคโปร์ ก็มีข้อดีและข้อเสียตรงข้ามกับการส่งลูกไปเรียนต่อประถมฯ เช่น ข้อดี นักเรียนโตแล้ว ช่วยเหลือตัวเองได้มาก ผู้ปกครองกังวลน้อยกว่าส่งลูกไปตอนประถมฯ แต่ข้อเสียก็คือการขาดโอกาสพัฒนาภาษาอังกฤษและวิชาการตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นต้น

      ผมไม่สามารถฟันธงได้ว่าแบบไหนดีที่สุด เพราะมันขึ้นอยู่กับว่า คุณให้น้ำหนักเรื่องใดมากกว่ากัน หากคุณให้น้ำหนักเรื่องการพัฒนาภาษาอังกฤษและวิชาการให้แน่นๆ และการเพิ่มโอกาสในการสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาล การเลือกส่งไปตอนประถมฯจะดีที่สุดครับ

     แต่หากคุณไม่สบายใจว่าและคุณเป็นห่วงเรื่องการใช้ชีวิตของลูกในต่างประเทศโดยที่ไม่มีพ่อแม่ดูแล การส่งลูกไปเรียนต่อระดับมัธยมฯจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะเด็กโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ระดับหนึ่ง

     สำหรับคำถามข้อ 3 ผมไม่สามารถตอบได้ครับ เพราะไม่มีข้อมูลครับ

   

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin ตอบโดยเว็บมาสเตอร์วันที่ตอบ 2012-04-19 11:32:29



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล