สวัสดีครับ

     1.  ผู้ปกครองท่านนี้วางแผนให้ นร. เรียนต่อที่สิงคโปร์ระดับ ม.5 จนเข้าไปเรียน ป.ตรีในมหาวิทยาลัยซึ่งหากเทียบกับระบบการศึกษาของสิงคโปร์แล้ว ทางนั้นจะไม่เรียก ม.5 แต่จะเรียกว่าระดับ Pre University ซึ่งจะเรียนกัน 2 ปี (คล้าย ม.5-6 บ้านเรา) หลังจากเรียนจบระดับ Pre University แล้ว นร.จะต้องเข้าสอบ GCE A Level เพื่อนำผลสอบยื่นเข้ามหาวิทยาลัย

     2.  ในการเข้าระดับ Pre University ในสิงคโปร์นั้น หากเข้าเรียนต่อในสถานศึกษาของรัฐ ที่นั่นจะเรียกว่าจูเนียร์ คอลเลจ ซึ่งมีประมาณ 20 แห่งทั่วประเทศ ข้อดีของจูเนียร์ คอลเลจ คือค่าเรียนที่ไม่แพง ประมาณ 220,000-230,000 บาทต่อปี และมีมาตรฐานสูงมาก นร.ที่เข้าเรียนที่นี่ได้เป็น นร.ระดับหัวกะทิของทั้งสิงคโปร์และต่างชาติ ดังนั้นในอีกด้านหนึ่งของประเด็นนี้จึงเป็นข้อเสียด้วย เพราะเข้ายากมากอันเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง

    3.  ดังนั้นจึงควรหาโรงเรียนเอกชนสิงคโปร์ที่เปิดสอนระดับ Pre University ไว้ด้วยซึ่งก็มีโรงเรียนเดียวคือ ร.ร.เซนต์ฟรานซิส เมโธดิสต์ ข้อดีคือโอกาสเข้าเรียนที่มีมากกว่า แต่ข้อเสียคือค่าเรียนไม่ถูก ประมาณ 450,000 บาทต่อปี

    4.  ประเด็นถัดมาคือค่าครองชีพ ไม่ว่าจะเข้าจูเนียร์ คอลเลจ ของรัฐ หรือจะเข้า ร.ร.เอกชน นักเรียนจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายค่าครองชีพที่สำคัญคือ ค่าที่พัก , ค่าน้ำไฟ , ค่าอาหาร , ค่าแม่บ้านซักผ้า , ค่าแม่บ้านรีดผ้า , ค่านั่งรถเมล์รถไฟฟ้า , ค่าหนังสือ , ค่าอุปกรณ์การเรียน , ค่าชุดนักเรียน , ค่าซื้อของใช้ส่วนตัว รวมๆแล้ว นร.ไทยใช้งบประมาณตรงนี้ประมาณ 450,000-550,000 บาทต่อปีโดยประมาณครับ

     5.  ประเด็นต่อมาเรื่องโรงเรียนสตรีล้วน สถานศึกษาระดับ Pre University ทั้งของรัฐและเอกชนที่ผมกล่าวข้างต้น ไม่มีหญิงล้วนครับ 

     6.  เรื่องเรียนซัมเมอร์ หากมีโอกาส ผมแนะนำผู้ปกครองให้ส่ง นร.ไปเรียนภาษาอังกฤษที่นั่นดู เพื่อที่ผู้ปกครองและ นร.จะสามารถประเมินระดับภาษาอังกฤษที่แท้จริงได้ เมื่อทราบข้อมูลตรงนี้แล้วก็สามารถนำมาวางแผนเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษในอนาคตได้

     ขอบคุณครับ