เรียนต่อ ป.ตรี มหาวิทยาลัยรัฐของสิงคโปร์ - เรียนสิงคโปร์ดอทคอม
ReadyPlanet.com
dot
dot


เรียนต่อ ป.ตรี มหาวิทยาลัยรัฐของสิงคโปร์ - เรียนสิงคโปร์ดอทคอม article
 เรียนต่อ ป.ตรี มหาวิทยาลัยรัฐของสิงคโปร์ - เรียนสิงคโปร์ดอทคอม

การเข้าไปเรียนต่อปริญญาตรีกับมหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์ (Singapore's Public Universities) ถือว่ายากเพราะมีการแข่งขันสูง แต่หากนักเรียนไทยคนใดที่มีประวัติการเรียนดีมาก การใช้ภาษาอังกฤษดีมาก มีประวัติการทำกิจกรรมโดดเด่น เคยประสบความสำเร็จระหว่างเรียน มีความสามารถพิเศษ ก็ลองยื่นเรียนต่อปริญญาตรีกับมหาวิทยาลัยรัฐของสิงคโปร์ดู เพราะหากได้รับการตอบรับเข้าเรียน ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะมหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์แต่ละแห่ง ล้วนแต่มีชื่อเสียงและมีมาตรฐานการศึกษาสูงระดับโลก

 มหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์มีกี่แห่งและมีอะไรบ้าง

มหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์ (Singapore's Public Universities) เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลสิงคโปร์ เปิดรับทั้งนักเรียนสิงคโปร์และนักเรียนต่างชาติ ข้อมูลล่าสุดปี 2023 เรียนสิงคโปร์ดอทคอม พบว่า ปัจจุบันมหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์มีทั้งหมด 6 แห่งประกอบด้วย

1. National University of Singapore (NUS) 

2. Nanyang Technological University (NTU)

3. Singapore Management University (SMU)

4. Singapore University of Technology and Design (SUTD)

5. Singapore Institute of Technology (SIT)

6. Singapore University of Social Science (SUSS)

มหาวิทยาลัยรัฐ NUS สิงคโปร์

National University of Singapore (NUS) มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นโรงเรียนแพทย์ขนาดเล็ก มีนักเรียน 23 คน ในปี 1905 (พ.ศ.2448) จากปีนั้นจนถึงปัจจุบันหรือกว่า 100 ปี NUS ได้เจริญเติบโตจนกลายเป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ

NUS ยังถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่ใหญ่ที่สุดในประเทศในแง่ของการมีคณะที่เปิดสอนมากที่สุด ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพ ตั้งแต่คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะคอมพิวเตอร์ คณะศิลปะศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะสาธารณสุข คณะวิทยาศาสตร์ คณะดนตรี ฯลฯ  

NUS ไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่ดีที่สุดของสิงคโปร์เท่านั้น แต่ได้ย่างก้าวเข้าสู่การเป็นมหาวิทยาลัยในระดับแถวหน้าของโลกไปแล้ว การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกประจำปี 2024 ของ QS World University Ranking จากอังกฤษ ให้ NUS อยู่อันดับ 8 ของโลก เคียงข้างกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกาและอังกฤษ

 

 หาวิทยาลัยรัฐ NTU สิงคโปร์

Nanyang Technological University (NTU) ก่อตั้งเมื่อปี 1955 (พ.ศ.2498) เป็นมหาวิทยาลัยรัฐลำดับที่สองของประเทศสิงคโปร์ หากกล่าวถึงจุดแข็งของ NTU ก็จะนึกถึงคณะวิศวกรรมศาสตร์ซึ่งเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ครอบคลุมสาขาวิศวกรรมหลายแขนง เช่น วิศวกรรมเคมี วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมการบินและอวกาศ วิศวกรรมไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่ง NTU อยู่อันดับที่ 14 ของโลก จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ในหมวดสาขาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี 2023 ของ QS World University Ranking จากอังกฤษ

 

 NTU ยังมีคณะที่น่าเรียนและมีชื่อเสียงอื่นอีก เช่น คณะธุรกิจ คณะวิทยาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ซึ่ง NTU ได้มหาวิทยาลัยชั้นนำของ UK อย่าง Imperial College London มาเป็นพันธมิตรร่วมมือทางวิชาการทางการแพทย์ด้วย

อีกหนึ่งไฮไลท์ของ NTU ที่นอกเหนือจากชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศทางวิชาการแล้ว NTU ยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ว่ากันว่ามีวิทยาเขต (campus) ที่สวยงามที่สุดในสิงคโปร์ โดยเฉพาะอาคารเรียนที่แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปกัน

ปัจจุบัน NTU ได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยระดับแถวหน้าของโลก โดยการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกประจำปี 2024 ของ QS World University Ranking จากอังกฤษให้ NTU อยู่อันดับ 26 ของโลก

 มหาวิทยาลัยรัฐ SMU สิงคโปร์

ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 รัฐบาลสิงคโปร์เริ่มวางแผนก่อตั้งมหาวิทยาลัยรัฐแห่งที่ 3 ของประเทศ โดยมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จะมีทิศทางที่ไม่เหมือนกับ NUS และ NTU ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลายสาขา แต่มหาวิทยาลัยแห่งใหม่นี้ จะเป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางเน้นทางด้าน Business and Management เพื่อผลิตงานวิจัยและผลิตบุคลากรรองรับการเป็นประเทศที่ใช้ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ หรือ “Knowledge-Based Economy” และการเป็นศูนย์การทางธุรกิจหรือ Business Hub

สำหรับโมเดลของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ สิงคโปร์ต้องการให้เป็นมหาวิทยาลัยด้าน Business and Management ในรูปแบบโรงเรียนธุรกิจของอเมริกา จึงได้ทำความร่วมมือทางวิชาการกับ the Wharton School ซึ่งเป็นโรงเรียนธุรกิจระดับ Top ของโลกแห่งมหาวิทยาลัย University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา มาช่วยวางรากฐานให้

ในที่สุดมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยรัฐแห่งที่ 3 ของประเทศก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 2000 (พ.ศ.2543) โดยใช้ชื่อว่า Singapore Management University หรือ SMU หลังจากเปิดมาแล้วกว่า 20 ปี ปัจจุบัน SMU อยู่อันดับ 43 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ประจำปี 2023 ในสาขา Business and Management ของ QS World University Ranking จากอังกฤษ

 มหาวิทยาลัยรัฐ SUTD สิงคโปร์

ในปี 2009 (พ.ศ.2552) สิงคโปร์ได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรัฐอันดับที่ 4 ของประเทศซึ่งก็คือ Singapore University of Technology and Design (SUTD) เพื่อให้เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางในด้านการออกแบบซึ่งไม่ใช่การออกแบบในเชิงศิลปะ แต่เป็นการออกแบบทางเทคโนโลยี

 

SUTD มีเป้าหมายที่จะผลิตนักศึกษาให้มีความรู้และทักษะการออกแบบเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ การบริการ และระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ในสังคม เช่น การออกแบบและสร้าง smartphone ซึ่งทำให้มนุษย์สะดวกสบายขึ้นในการดำเนินชีวิตถือเป็นตัวอย่างของแนวคิดนี้

การที่จะทำอย่างนั้นได้ SUTD ต้องวางรากฐานทางด้าน STEM ให้กับนักศึกษาซึ่งได้แก่วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษาสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบได้ ขณะเดียวกันนักศึกษายังจะต้องเรียนหมวดศิลปะ มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ เพื่อเข้าใจมิติมนุษย์กับสังคมและสามารถเชื่อมโยงศาสตร์เหล่านี้เข้ากับ STEM ได้ด้วย เรียกการเรียนแบบนี้ว่า Interdisciplinary Learning หรือการเรียนรู้ต่างสาขาและเชื่อมโยงกัน

 สิงคโปร์มีเป้าหมายให้ SUTD เป็นมหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก จึงได้ร่วมมือทางวิชาการกับ MIT หรือ Massachusetts Institute of Technology ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลกในสาขาเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด โดยปัจจุบันหลักสูตรของ SUTD กว่า 90% ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดย MIT

 

มหาวิทยาลัยรัฐ SIT สิงคโปร์

สิงคโปร์ไม่ได้มีแต่นักเรียนที่เรียนสายสามัญหรือสายวิชาการเท่านั้น แต่ยังมีนักเรียนที่เรียนในสายวิชาชีพด้วย โดยนักเรียนกลุ่มนี้จะเรียนกันที่ Polytechnic ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาวิชาชีพของรัฐ มีทั้งหมด 5 แห่งทั่วประเทศ หลักสูตรที่เรียนเป็นระดับ Diploma (อนุปริญญา) เน้นการเรียนแบบปฏิบัติจริง ใช้เวลาเรียน 3 ปี หลังเรียนจบ บางส่วนก็ทำงานเลย บางส่วนต้องการเรียนต่อปริญญาตรีต่อเนื่อง

แต่ปัญหาคือมหาวิทยาลัยรัฐในเวลานั้นไม่สามารถรองรับนักเรียนที่จบ Polytechnic แล้วต้องการเรียนต่อปริญญาตรีได้เพียงพอ จึงกลายเป็นที่มาของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยรัฐแห่งที่ 5 ของประเทศสิงคโปร์ โดยใช้ชื่อว่า Singapore Institute of Technology (SIT) ซึ่งถูกประกาศให้เป็นมหาวิทยาลัยรัฐอย่างเป็นทางการในปี 2014 (พ.ศ.2557)

SIT จึงเป็นมหาวิทยาลัยที่มีลักษณะเฉพาะตัว เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่รองรับนักเรียนที่เรียนจบสายวิชาชีพจาก Polytechnic เป็นหลัก ดังนั้นหลักสูตรปริญญาตรีที่เปิดสอนที่ SIT จึงมีลักษณะเป็น Applied Learning หรือการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง เน้นฝึกทักษะ สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้จริง สำหรับสาขาที่เปิดสอน เช่น วิศวกรรมศาสตร์ในแขนงต่างๆ เทคโนโลยีสารสนเทศ สื่อและการออกแบบ เทคนิคการแพทย์ พยาบาล เทคโนโลยีอาหาร การบริหารธุรกิจ เป็นต้น

มหาวิทยาลัยรัฐ SUSS สิงคโปร์

Singapore University of Social Science (SUSS) ได้รับประกาศให้เป็นมหาวิทยาลัยรัฐแห่งที่ 6 ของประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2017 (พ.ศ.2560) จุดกำเนิดของ SUSS นั้นต้องย้อนกลับไปช่วงปลายทศวรรษ 1990 ซึ่งเวลานั้นรัฐบาลสิงคโปร์ต้องการให้มีสถาบันการศึกษาที่รองรับนักศึกษาผู้ใหญ่ คนทำงาน ที่อยากจะกลับมาเรียนต่อระดับปริญญาตรีเพื่อพัฒนาตัวเองและเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตหรือ Lifelong Learning ในสิงคโปร์

รัฐบาลสิงคโปร์จึงมอบหมายให้ Singapore Institute of Management หรือ SIM สถาบันอุดมศึกษาเอกชนชั้นนำของสิงคโปร์ รับผิดชอบภารกิจนี้ซึ่ง SIM ได้ดำเนินการโครงการนี้โดยใช้ชื่อ SIM University (UniSIM) ซึ่งได้ดำเนินการเรื่อยมาจนกระทั่งรัฐบาลสิงคโปร์รับช่วงต่อ โดยการเปลี่ยนชื่อจาก UniSIM เป็น SUSS และได้ประกาศให้มีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยรัฐแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในปี 2017

SUSS แม้ว่าจะมีที่มาจากการเป็นมหาวิทยาลัยสำหรับนักศึกษาผู้ใหญ่คนทำงาน แต่ปัจจุบันนอกจากเปิดรับนักศึกษาผู้ใหญ่แล้ว ก็ยังเปิดรับนักศึกษาที่เรียนจบ ม.ปลายเพื่อเข้าเรียนต่อ ป.ตรี ด้วย โดยมีทั้งหมด 5 คณะคือ คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คณะธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สิงคโปร์ต้องการให้ SUSS เป็นมหาวิทยาลัยที่เชี่ยวชาญทางด้านสังคมศาสตร์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและมนุษย์ รวมถึงให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ให้ความสำคัญและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตหรือ Lifelong Learning ด้วย 

 

ระยะเวลาเรียนหลักสูตรปริญญาตรี

โดยเฉลี่ยในทุกสาขาใช้เวลาเรียนปริญญาตรี 4 ปี ยกเว้นบางสาขาที่ใช้เวลาเรียนมากกว่า เช่น เรียนแพทย์ ใช้เวลาเรียน 5 ปี และบางสาขาที่ใช้เวลาเรียนน้อยกว่า เช่น ธุรกิจ/บัญชี ใช้เวลาเรียน 3 ปี 

ค่าเรียนปริญญาตรี

ค่าเรียนปริญญาตรีในกลุ่มมหาวิทยาลัยรัฐของสิงคโปร์มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสาขาที่เลือกเรียน นอกจากนี้ค่าเรียนสำหรับนักเรียนต่างชาติรวมถึงนักเรียนไทย ก็มี 2 แบบให้เลือก แบบแรกเป็นแบบที่รัฐบาลสิงคโปร์อุดหนุนออกค่าเรียนให้ส่วนหนึ่ง นักเรียนต่างชาติออกเองส่วนหนึ่ง และแบบสอง เป็นแบบที่นักเรียนต่างชาติออกค่าเรียนเอง 100ลองดูตัวอย่างค่าเรียนของ NUS ประจำปีการศึกษา 2023-2024 สำหรับนักเรียนต่างชาติ

การสมัครเรียน

เนื่องจากกลุ่มมหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์ ไม่มีการแต่งตั้งตัวแทนหรือเอเจนซี่ในต่างประเทศ ดังนั้นนักเรียนไทยที่สนใจ จะต้องติดต่อสอบถามและสมัครเรียนกับมหาวิทยาลัยเหล่านี้โดยตรง โดยเข้าไปเว็บไซด์ของแต่ละมหาวิทยาลัย จากนั้นเข้าไปในหน้า Admissions เพื่อไปศึกษาระเบียบการสมัครให้ดี

เนื่องจากแต่ละมหาวิทยาลัยมีระเบียบการรับสมัครเรียนไม่ตรงกัน เช่น NUS กำหนดว่า นักเรียนไทยที่จะสมัครเรียน ป.ตรี ที่ NUS จะต้องเรียนจบ ม.ด้วยเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.0 และมีผลสอบภาษาอังกฤษ IELTS คะแนนรวมตั้งแต่ 6.5 ขึ้นไป ส่วนคะแนนย่อยใน band อ่านและเขียน คะแนนไม่ต่ำกว่า 6.5

ในขณะที่ NTU กำหนดว่า นักเรียนไทยที่จะสมัครเรียนปริญญาตรี จะต้องจบ ม.โดยที่ไม่ได้กำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำ และให้ยื่นผลสอบภาษาอังกฤษ IELTS คะแนนรวมตั้งแต่ 6.0 ขึ้นไป ส่วนคะแนนย่อยใน band เขียน คะแนนไม่ต่ำกว่า 6.0

ความเข้าใจผิดเรื่องการสมัครเรียน

นักเรียนหลายคนเข้าใจว่า หากนักเรียนมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดข้างต้น นักเรียนก็สามารถสมัครเรียนและได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยรัฐได้เลยซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ความเข้าใจที่ถูกต้องคือ หากนักเรียนมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด นักเรียนมีสิทธิ์ยื่นสมัครเรียนได้เท่านั้น ส่วนจะได้รับการตอบรับเข้าเรียนหรือไม่นั้น เป็นคนละประเด็น เพราะมหาวิทยาลัยจะต้องพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครอย่างรอบด้านก่อน หากผู้สมัครรายนั้นโดดเด่นมากๆจริงๆ จึงจะมีโอกาสถูกตอบรับเข้าเรียน

ปฏิทินการศึกษา

ปีการศึกษาของมหาวิทยาลัยรัฐสิงคโปร์ จะเริ่มประมาณต้นเดือนสิงหาคมและสิ้นสุดช่วงกลางพฤษภาคมของแต่ละปี  โดยปกติมหาวิทยาลัยเหล่านี้จะเริ่มเปิดรับสมัครเรียนนักเรียนไทยประมาณเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี เช่น ปีการศึกษา 2024-2025 จะเริ่มเรียนสิงหาคม 2024 – พฤษภาคม 2025 ซึ่งนักเรียนไทยที่สนใจสมัครเรียนในปีการศึกษานี้ จะต้องสมัครช่วงระหว่างตุลาคม 2023 - กุมภาพันธ์ 2024 เป็นต้น 

บทสรุป

ข้อมูลข้างต้นเป็นการสรุปเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพื่อให้นักเรียนไทยพอเห็นภาพรวมของการเรียนต่อปริญญาตรีในกลุ่มมหาวิทยาลัยรัฐของสิงคโปร์ ยังมีรายละเอียดมากมายที่ยังไม่ได้กล่าวถึง เช่น สาขาที่เปิดสอนราคาค่าเรียน,ระเบียบการสมัครเรียนทุนการศึกษา ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนักเรียนสามารถศึกษารายละเอียดได้เองตามเว็บไซด์ของแต่ละมหาวิทยาลัย

เรียบเรียงข้อมูลโดย

เรียนสิงคโปร์ดอทคอม ศูนย์แนะแนวเรียนต่อสิงคโปร์โดยเฉพาะ

 

ติดตามข้อมูลการเรียนต่อสิงคโปร์

Facebook: เรียนสิงคโปร์     

Instagram: riansingapore   

YouTube: เรียนสิงคโปร์       

 

 




โรงเรียน/สถาบันการศึกษา

เรียนต่อหมอระดับปริญญาตรีที่สิงคโปร์ดีไหม article
เรียนปริญญาตรีที่สิงคโปร์ให้จบภายใน 2 ปี article
เรียนปริญญาโทที่ SIM GE สิงคโปร์ article
มหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มาเปิดสอนปริญญาตรีที่สิงคโปร์ article
เรียนภาษาอังกฤษที่ Kaplan สิงคโปร์ article
เรียนปริญญาโทที่ SMU สิงคโปร์ article
เรียนต่อมัธยมปลาย SFMS สิงคโปร์ หลักสูตร WACE ออสเตรเลีย article
เรียนต่อป.ตรี MDIS สิงคโปร์ article
เรียนต่อป.โท MDIS สิงคโปร์ article
เรียนต่อมัธยมฯที่ Hwa Chong International School สิงคโปร์ article
GED นำไปสมัครเรียนต่อปริญญาตรีที่สิงคโปร์ได้หรือไม่ article
เรียนต่อมัธยมMDIS สิงคโปร์ article
เรียนต่อปริญญาโทที่สิงคโปร์ ด้วยราคาค่าเรียนในระดับกลาง article
เรียนต่อ ป โท ที่ JCU สิงคโปร์ article
เรียนต่อ MBA สิงคโปร์ ที่ไหนดี article
เรียนปริญญาตรีสถาบัน SIM GE สิงคโปร์ - เรียนสิงคโปร์ดอทคอม article
เรียนต่อ ป.ตรี สถาบันการศึกษาเอกชนสิงคโปร์ - Private Education Institution Singapore article
เรียนต่อ ป.ตรี ที่สิงคโปร์กับ Kaplan Singapore ปี 2024 article
เรียนต่อมัธยมศึกษาสิงคโปร์ St. Francis Methodist School article
เส้นทางเรียนต่อป.ตรี สิงคโปร์ PSB ACADEMY ปี 2024 article
เรียนต่อปริญญาตรีที่สิงคโปร์ JCU Singapore article